อีกหนึ่งข่าวดังช่วงสิ้นปีคงหนีไม่พ้นเรื่องที่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก (Facebook) ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัท Facebook เป็น Meta พร้อมโลโก้ใหม่ เปิดจักรวาลเข้าสู่โลกเสมือนจริงแห่งอนาคตพร้อมวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งสู่สิ่งที่ ‘ยิ่งใหญ่’ กว่าเดิม โดยก่อนหน้านี้มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ก็ได้พูดถึงการเข้าสู่ Metaverse มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และยังลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) อย่างมาก รวมถึงปล่อย gadgets ต่างๆ เช่น หูฟัง VR และเร่งพัฒนาสายรัดข้อมือ VR แว่นตา VR อีกด้วย
จักรวาลนฤมิต (Metaverse) โลกเสมือนที่กำลังจะเป็นเรื่องจริง
จักรวาลนฤมิต หรือ Metaverse คือโลกเสมือนจริงที่พาผู้คนหรือผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เสมือนอยู่โลกอีกใบหนึ่ง ซึ่งใช้ชีวิตคล้ายกับอยู่บนโลกความเป็นจริง โดยอาศัยเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (VR) และวัตถุเสมือนจริง (AR) เข้ามาช่วย
Metaverse อยู่ตรงไหนในชีวิตเราบ้าง?
พูดถึง Metaverse หลายๆคนอาจจะคิดถึงแค่วงการเกมหรือความบันเทิง แต่จริงๆแล้ว Metaverse มีการนำมาใช้ในแวดวงต่างๆ ได้แก่
ด้านการแพทย์ : ใช้ในการผ่าตัดทางไกล, จำลองการผ่าตัดเสมือนจริง
ด้าน E-Commerce : ใช้ในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์, จำลองใช้สินค้าโดยไม่ต้องไปที่ร้านค้า
ด้านการลงทุน : ใช้ในการซื้อสินค้า NFT ออนไลน์, เทรดคริปโตฯ
ด้านวิศวกรรม : ใช้ในการออกแบบหุ่นยนต์, ออกคำสั่งทางไกลในการปฏิบัติงาน
ด้านท่องเที่ยว : ใช้ในการจำลองท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์, จำลองสถานที่ต่างๆ
ด้านบันเทิง : ใช้ในการจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริง, สร้างตัวละครเสมือนจริงในภาพยนตร์
Metaverse ยังมีโอกาสมากแค่ไหนในตลาดโลก
การคาดการณ์จาก Bloomberg ได้ประมาณการว่าขนาดของตลาด Metaverse จะอยู่ที่มูลค่า $800 Billion ในปี 2024 ด้าน PwC บริษัทที่ปรึกษาชื่อดังประมาณขนาดตลาดอยู่ที่มูลค่า $1,500 billion ในปี 2030 เรียกว่าโตแบบมีอัตราเร่ง ไปถึง 10 ปีข้างหน้า
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse มีทั้งบริษัทที่พัฒนาด้านเกม ผลิต อุปกรณ์ Hardware Device เพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่ Metaverse เช่น คอมพิวเตอร์ มือถือ แว่นตา VR และอื่นๆ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ความเร็วของอินเทอร์เน็ต ความคมชัดของสื่อต่างๆ ทำให้ภาพมีความเสมือนจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งความเร็ว และความละเอียดมีมากเท่าไหร่ สังคม Metaverse ก็จะยิ่งเติบโตไปได้มากยิ่งขึ้น เพราะการทำให้คนเข้าไปโลกเสมือนจริง มันจะยิ่งเหมือนจริงมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการเผชิญวิกฤติ COVID-19 ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนรักษาระยะห่าง Social Distance และอาศัยโลกเสมือนจริงในการพบปะทั้งด้านธุรกิจและด้านบันเทิง
M-META กองทุนแรกครอบคลุมทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse
กองทุน M-META ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน Roundhill Ball Metaverse ETF บริหารจัดการโดย Roundhill Investments มีวัตถุประสงค์การลงทุนใกล้เคียงกับ ดัชนี Ball Metaverse Index โดย The Ball Metaverse Index คัดเลือกหุ้นจาก Metaverse Market Map 7 ประเภทจากการวิจัยและวิเคราะห์เชิงลึกของ Expert Council ที่มีความชำนาญด้านการทำ Index โดยดัชนีจะประเมินบริษัทต่างๆที่มีผลการดำเนินงาน ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse และได้รับประโยชน์ทั้งจากรายได้และกำไร
อีกหนึ่งจุดเด่นของกองทุน M-META ที่นอกเหนือจากธีมการลงทุนที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตระยะยาวแล้ว กองทุน M-META ยังรวมเทคโนโลยีอื่นๆ ในธีมนี้ เช่น Hardware มีทั้ง Device ภาพและเสียง, ชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์, การ์ดจอ ด้าน Software Program Digital Platform มีทั้งการชำระเงิน Blockchain, Game Online, Social Media ไว้ใน Theme เดียวทำให้เราลงทุนแล้วครบและกว้าง โดยกองทุนเลือกลงทุนเน้นบริษัทชั้นนำที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมมีพื้นฐานจากธุรกิจเดิมและพัฒนาในส่วน Metaverse
การลงทุนของกองทุน Roundhill Ball Metaverse ETF
จองซื้อกองทุน M-META ผ่าน Streaming Fund+ ตั้งแต่วันที่ 13 – 20 ธ.ค. 64
- Streaming Fund+ สำหรับ Android คลิกเพื่อติดตั้ง
- Streaming Fund+ สำหรับ iPhone / iPad คลิกเพื่อติดตั้ง
เปิดบัญชีกองทุนรวมออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง สะดวก ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสาร!!