วิวัฒนาการคือสิ่งที่ “เติบโต” และเป็น “อมตะ”
- ช่วงปี ค.ศ. 1790 – 1920 “จากแรงงานมนุษย์ สู่แรงงานเครื่องจักรอุตสาหกรรม ถือเป็นจุดเริ่มต้นและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่งคมนาคม ช่วยลดระยะเวลาการขนส่งและการเดินทาง ก่อเกิดการค้าระหว่างประเทศจากความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่แตกต่างกัน ส่งผลให้การค้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกขยายตัวอย่างรวดเร็ว
- ช่วงปี ค.ศ. 1960 – 2010 “จากระบบอนาล็อก สู่ระบบอินเทอร์เน็ต” การเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของธุรกิจและการค้า ก่อให้เกิดการคิดค้น Computer ซึ่งเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ และระบบ Internet ซึ่งสามารถทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ทั่วทุกมุมโลก จึงเรียกยุคนี้ว่า “The Digital and Information revolutions”
- ช่วงปี ค.ศ. 2010 “จากปัญญามนุษย์ สู่ปัญญาประดิษฐ์” ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์โดย Computer จะไม่ถูกตัดสินใจหรือถูกใช้งานโดยมนุษย์แต่จะเป็นปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะทำให้เกิดความแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์ความรู้สึกที่อาจไม่ถูกต้อง โดยในปัจจุบัน ธุรกิจเริ่มมีการใช้และพัฒนาระบบดังกล่าวมากยิ่งขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์, การแพทย์ และการเงิน เป็นต้น
จึงสรุปได้ว่าในแต่ละยุคสมัยจะมีนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาแทนที่อยู่เสมอ และธุรกิจที่ไม่มีวิวัฒนาการหรือไม่มีการปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัยก็จะถูก ” Disrupt ” ไปในแต่ละช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เหล่านี้ การลงทุนในธุรกิจที่มี ” Innovation ” จึงถือเป็นความท้าทายที่สำคัญของนักลงทุน เนื่องจากอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยชี้ชะตาพอร์ตการลงทุนในอนาคต ว่าจะเป็นผู้ลงทุนในบริษัทที่ ” ล้มเหลว ” หรือ ” ประสบความสำเร็จ ” ได้ในระยะยาว
ลงทุนกับเทรนด์นวัตกรรมทั่วโลกที่กำลังเติบโตใน 4 ธีมหลักผ่าน LHINNO
Next Generation Internet
คือนวัตกรรมที่เพิ่มขีดความสามารถการใช้ Internet ในการ Streaming, Live และหรือเข้าถึงข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้เกือบ Real-Time และเข้าถึงได้ง่าย โดยในปัจจุบันได้มีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมกลุ่ม Streaming Media. Cloud Computing และ E-Commerce เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเติบโตอย่างต่อเนื่องและรองรับการเข้าถึงสื่อต่างๆได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบ Internet จึงคาดว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตไปพร้อมกับฐานผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรม Streaming จะเติบโตได้กว่า 35% ต่อปีในส่วนของมูลค่าตลาด ตัวอย่างหุ้น เช่น ROKU ผู้ผลิตอุปกรณ์ Streaming ,Spotify Audio Streaming เจ้าใหญ่ของโลก
Fintech Innovation
นวัตกรรมทางการเงิน ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งกับบุคคลทั่วไปหรือในการทำธุรกิจ เช่น Digital Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิตัลที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องพกพาเงินสดอีกต่อไป ช่วยเพิ่มความสะดวกในการรับ-จ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างหุ้น Square ให้บริการทางการเงินครบวงจร ซื้อขายชำระสำหรับผู้ประกอบการ รวมถึงสินเชื่อและการลงทุนในชื่อ “CashApp” ซึ่งตอบสนองได้ดีกว่าธนาคารแบบเดิม
Industrial Innovation
เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (Autonomous Things) และเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่น่าจับตามองที่สุด เนื่องจากทำให้เกิดการใช้วัตถุดิบ และลดต้นทุนโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น รถยนต์ EV ที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนไปถึงการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน โดยมีการประมาณการตลาดรถยนต์ EV ในปี 2019-2024 อาจเติบโตได้ถึง 79% และคาดว่าในปี 2040 รถยนต์ EV จะคิดเป็นสัดส่วน 55% ของรถยนต์บนท้องถนนทั้งหมด ตัวอย่างหุ้น TESLA ที่พ.ศ.นี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ผู้ผลิตรถไฟฟ้า เครื่องชาร์ต Battery รายใหญ่ของโลก
DNA Technology
เทคโนโลยีในการถอดรหัสพันธุกรรมและตัดต่อยีน (DNA Sequencing & Gene Editing) สามารถตรวจสอบความผิดปกติของโครโมโซมซึ่งจะทำให้ทราบโรคร้ายต่างๆ รวมถึงการตัดต่อพันธุกรรมจะสามารถนำไปใช้ในวงการชีวภาพได้อย่างหลากหลาย อาทิ การรักษาโรคมะเร็งและการพัฒนาสัตว์ทดลองและพันธุ์พืช เป็นต้น และคาดว่าจะเติบโตได้ถึง 43% ในช่วงตั้งแต่ค.ศ. 2019 – 2024 ตัวอย่างหุ้น Cripspr Therapeutics ผู้นำด้านการตัดต่อยีน เพื่อรักษาโรคร้ายแรงอย่างทาลัสซีเมีย มะเร็ง
LHINNO ลงทุนผสมผสานผ่าน ARK Innovation ETF, ARK Genomic ETF และ Invesco WilderHill Clean Energy ETF
LHINNO : Portfolio Model
กองทุน LHINNO มีการลงทุนใน 3 กองทุนดังนี้
- ARK Innovation ETF (ประมาณ 75%) เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มนวัตกรรมใน 4 ธีม การลงทุน ได้แก่ Next Generation Internet, Industrial Innovation, Fintech Innovation และ DNA Technology
- ARK Genomic ETF (ประมาณ 12.5%) เน้นลงทุนในกลุ่ม DNA Technology, Gene Editing ซึ่งเป็นหนึ่งในธีมการลงทุนหลักของ ARK Innovation
- Invesco WilderHill Clean Energy ETF (ประมาณ 12.5%) เน้นลงทุนในกลุ่มหุ้นพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีสะอาดที่ได้รับผลบวกจากนโยบายภาครัฐและเอกชนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ARK Innovation ETF : Investment Process
กองทุน ARK Innovation ETF เป็นบลจ. ที่บริหารโดย Dr.Cahthie Wood CEO และ CIO มุ่งเน้นลงทุนบริษัทที่มีนวัตกรรม ที่จะ Disrupt ธุรกิจเดิมและจะกลายเป็นผู้นำ ซึ่ง ARK มองว่าปัจจุบันกำลังเข้าสู่ TurningPoint ที่กำลังจะเปลียนวิถีชีวิตของมนุษย์ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะลงทุนในระยะยาว เน้นลงทุนในช่วงเริ่มต้นของบริษัท สร้างกองทุนในรูปแบบ ETF ซึ่งทั้งบริษัทฯ มีเพียง 7 กองเท่านั้น โดยแต่ละกองเน้นธุรกิจ Disrupt New Economy เป็นบลจ.ที่มีคนกล่าวขวัญมากที่สุดในปัจจุบัน มีหลักการคัดเลือกบริษัทลงทุนเข้าพอร์ตทั้งแบบ Top-Down Analysis และ Bttom-Up Analysis เพื่อยืนยันโอกาสในการลงทุนให้มีความแม่นยำสูงสุด
ARK Innovation ETF Top Holding
ตัวอย่างหุ้นที่น่าสนใจใน Top Holding
1.TESLA ผู้นำในการออกแบบ ผลิตและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันมีโรงงานทั้งสิ้น 6 แห่ง Giga Nevada, Giga New York, Giga Shanghai, Giga Berlin, Giga Texas และ Giga Fremont : California จำนวนยอดขายรถยนต์ Tesla เพิ่มขึ้นในทุกๆปี โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2020 ถึง ไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ยอดขายอยู่ที่ 318,350 คัน
2.SQUARE บริษัทให้บริการทางด้านการเงิน (Financial Services) ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการ (ให้บริการระบบการขายหน้าร้าน การชำระเงิน การจัดการเงินเดือน การจัดการสินค้าคงคลัง รวมถึงการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก) และผู้บริโภค (ให้บริการจ่ายเงินผ่านมือถือผ่าน Cash App รวมทั้งสามารถซื้อ Bitcoin หรือซื้อหลักทรัพย์ได้)
3.ROKU บริษัทจำหน่ายอุปกรณ์สตรีมมิ่งสื่อที่ผู้ชมโทรทัศน์สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อดูภาพยนตร์ ทีวี ฟังเพลงได้ทั่วโลก รองรับการใช้งานร่วมกับ Netflix, Disney Plus, Hulu, Amazon, Prime, HBO, Youtube, Apple TV Plus, Twit.tv, Local News NBC โดยมีจุดเด่นที่ราคาถูก พกพาสะดวกและมีหลายช่องให้เลือกดู
4.CRISPR THERAPEUTICS ผู้นำทางด้านการตัดต่อยีนโดยใช้เทคโนโลยี CRISPR/Cas9 ล่าสุดบริษัทอยู่ในช่วงทดลองตัดต่อยีน เพื่อรักษาโรคธาลัสซีเมีย โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว และโรคมะเร็ง
LHINNO : Backtest
กองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นทั่วโลก จากกราฟจะเห็นว่าผลตอบแทนย้อนหลังจากการคำนวน Backtest ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015-2020 และเมื่อสังเกตที่ตารางผลตอบแทนย้อนหลังจะพบว่า สามารถสร้างผลตอบแทนได้เหนือกว่าหุ้นโลกถึง 5 เท่า เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกอย่างแพร่หลาย จากการคาดการณ์ว่าธุรกิจดังกล่าวกำลังจะเข้ามา “Disrupt” ธุรกิจเดิมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
กราฟแสดงผลการคำนวน Backtest ย้อนหลังช่วง ค.ศ.2015-2020 และตารางแสดงผลตอบแทนและความเสี่ยงย้อนหลัง 3 ปี ของกองทุน LHINNO เทียบกับกองทุนหุ้นทั่วโลกอื่นๆ
นักลงทุนสนใจกองทุน LHINNO จนยอดจองเต็มจำนวนตั้งแต่วันแรก ของการจองซื้อ IPO 19 มกราคม 2564
จองซื้อกองทุนออนไลน์ “LHINNO” ผ่าน Streaming for Fund…
- Streaming for Fund สำหรับ iPhone / iPad คลิกเพื่อติดตั้ง
- Streaming for Fund สำหรับ Android คลิกเพื่อติดตั้ง
1. Login เข้าสู่ระบบ โดยระบุ Username และ Password เดียวกับที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชัน Streaming
2. เลือกเมนูหลัก “Place Order” ไปที่แถบ “Purchase” และค้นหาชื่อกองทุน LHINNO โดยจะมี 2 ชนิดคือ -A แบบสะสมมูลค่า และ -D แบบปับผล
- Fund Code ระบุชื่อกองทุนที่ต้องการซื้อ
- Amount ระบุจำนวนเงิน (บาท) : กำหนดขั้นต่ำในการซื้อ 5,000 บาท กรณีผ่าน Streaming for Fund
- Effective Date เลือกวันที่ต้องการให้คำสั่งมีผล
- Payment Type การชำระเงินผ่านบริการหักเงินจากบัญชีธนาคารอัตโนมัติ (ATS)
- ระบุ PIN จากนั้นกด SUBMIT ตรวจสอบความถูกต้อง และกด Confirm
*หมายเหตุ : กรณีจองซื้อผ่านทาง Streaming For fund (ชำระโดย ATS ขั้นต่ำ 5,000 บาท)
เปิดบัญชีกองทุนรวมออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง สะดวก ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสาร!!
ผู้ลงทุนจะต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน…ศึกษาข้อมูลกองทุนและหนังสือชี้ชวนเพิ่มเติมได้ที่ www.lhfund.co.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง โทร. 0-2618-1111
แสดงความคิดเห็น