นับตั้งแต่ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 1,700 ผ่าน 1,730 ก็แล้ว…แถมยังปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวัน จนสร้างความกังวลว่า ตลาดจะมีความเสี่ยงปรับตัวในระยะสั้นเพิ่มขึ้น โดยการวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ให้เห็นว่า ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงร้อนแรง (RSI 70) จากมุมมองหลักทรัพย์บัวหลวง หากดัชนียืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,720 – 1,730 จุดได้ เรายังคงคาดดัชนีอยู่ในช่วงพักตัวบนรูปแบบขาขึ้น เป้าหมายถัดไป 1,750 จุด…
…เข้าสู่โค้งสัปดาห์ทำการสุดท้ายของปี 2560 กันแล้ว!! สรุปผลตอบแทนคร่าวๆ 12-13% ดัชนีขึ้นทำจุดสูงสุดไว้ที่ 1,752.82 จุด และทำจุดต่ำสุด 1,538.10 จุด ปีนี้ตลาดหุ้นไทยได้รับเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันมากที่สุดถึง 96,850.55 ล้านบาท เรียกว่า…ซื้อกันตั้งแต่ต้นปีและซื้อมาเรื่อยๆ ตลอดทางเลยทีเดียว ส่วนคนที่ขายสุทธิมากที่สุดเช่นเดิม…รายย่อย ขายสุทธิไปราวๆ 88,214.67 ล้านบาท…
ต่อมากลุ่ม Sector ที่โดดเด่น ปรับตัวเพิ่มสูงสุดได้แก่ PETRO +41.29%, PAPER +40.32% ตามมาด้วย TRANS +32.60% ส่วน Sector ที่ปรับตัวลดลงสร้างผลตอบแทนติดลบ ได้แก่ PROF -23.83%, PERSON -20.97% ตามมาด้วย HOME -18.70% และหุ้นที่วิ่งแรงทำเงินให้กับนักลงทุนในปีนี้จะเป็น ORI +255.24%, ASIAN +226.65% และ RS +223.76%
หวัง Window Dressing สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้!!
- Window Dressing คืออะไร ?
มีความเชื่อที่ว่านักลงทุนสถาบัน กองทุน ทำการผลักดันราคาหุ้นในกองทุนที่ตนเองถืออยู่ให้มีราคาสูงขึ้น เพราะหากราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นก็จะส่งผลดีให้กำไรเพิ่มขึ้นตาม และทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุน (NAV) ออกมาดีด้วยนั่นเอง เหตุการณ์นี้อาจจะเรียกกันว่า เป็นการตกแต่งตัวเลขทางบัญชีให้สวยขึ้น!!
- Window Dressing จะมาช่วงจังหวะเวลาใด ?
มักจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนวันสิ้นงวดของแต่ละไตรมาสนั่นคือ มีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม ซึ่งจะเกิดชัดเจนที่สุดในเดือนธันวาคม เนื่องจากจะเป็นทั้งวันปิดงวดสิ้นไตรมาสและปิดงบใหญ่ของปีอีกด้วย!!
“ความคาดหวังของตลาด” นั่นหมายถึงว่า มีโอกาสที่จะเกิด Window Dressing หรือไม่มีก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ในภาวะตลาดดี (ขาขึ้น) หากหุ้นนั้นๆ ที่กองทุนถือครองอยู่มีการปรับตัวของราคาสูงขึ้นมากแล้ว ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำ Window Dressing อีก ในทางกลับกันหากภาวะตลาดค่อนข้างนิ่งและมีหุ้นตัวใดที่ราคายังไม่ค่อยขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มเดียวกันที่ราคาปรับตัวกันไปหมดแล้ว ก็มีโอกาสที่จะเกิดการทำราคาในหุ้นนั้นๆ หรือที่เรามักจะเคยได้ยินคำศัพท์เรียกหุ้นชนิดนี้ว่า หุ้นที่ Laggard นั้นเอง!! และสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ยังไม่ซื้อ LTF นี่คือโอกาสสุดท้ายที่คุณจะซื้อ LTF เพื่อลดหย่อนภาษี และคาดว่าตลาดหุ้นจะได้รับเม็ดเงินอีกเพียบในสัปดาห์นี้ ประกอบกับแรงขายของต่างชาติชะลอตัวลงจากช่วงหยุดยาว…โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว !!…สัปดาห์สุดท้ายตลาดหุ้นไทยทำผลตอบแทน +2.18% โดยถ้า 5 วันสุดท้ายตลาดหุ้นจะสร้างผลตอบแทนราวๆ 2% อีกครั้งหนึ่ง ตลาดหุ้นไทยจะปิดตลาดปีนี้ไปราวๆ 1,770 จุดเรามาลุ้นไปพร้อมๆ กัน…
กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนปีหน้า…
แนะนำกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ…
- กลุ่มธนาคารและการเงิน
- ค้าปลีก
- สื่อ
- ยานยนต์และอสังหาฯ
โอกาสในการลงทุนจากเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างปี 2018 ได้แก่…การประมูลคลื่นความถี่กลุ่มโทรคมนาคม, การประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐานและการเลือกตั้ง, กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่อุปสงค์-อุปทานแข็งแกร่ง…
สุดท้ายนี้!! หลักทรัพย์บัวหลวงอยากบอกว่า…
“สุขสันต์วันคริสต์มาส” นะคะ
![]()
แสดงความคิดเห็น